ทำ ULTRAMAX HIFU 7D ใช้เวลากี่นาที? อยู่ได้นานแค่ไหน?​

ULTRAMAX HIFU 7D ดีกว่า HIFU รุ่นเก่ายังไง? สรุปครบที่นี่

ULTRAMAX HIFU 7D คือเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าและลำตัวแบบไม่ต้องผ่าตัดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (HIFU) ส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS และไขมันใต้ผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และยกกระชับผิวอย่างแม่นยำ

ด้วยคุณสมบัติพิเศษคือ <strong>สามารถเลือกหัวยิงได้สูงสุดถึง 7 ระดับความลึก</strong> ทำให้เหมาะกับการปรับรูปหน้าเฉพาะจุด เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม เหนียง หรือกรอบหน้า โดยไม่ต้องพักฟื้นและไม่ใช้เข็ม

เทคโนโลยี ULTRAMAX HIFU 7D ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในคลินิกความงาม เพราะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เจ็บน้อยกว่า HIFU รุ่นก่อน และตอบโจทย์ผู้ที่มองหาการยกกระชับแบบละเอียดเฉพาะจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด

รวมหัวข้อ โปรแกรม ULTRAMAX 2025

ULTRAMAX HIFU 7D คืออะไร? และทำไมถึงเรียกว่า “7D”?

ULTRAMAX HIFU 7D คือเทคโนโลยี HIFU รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาจากระบบ HIFU รุ่นก่อนหน้า เช่น 3D, 4D หรือ Ultraformer III โดยเน้นการยิงพลังงานได้ “ละเอียดขึ้น แม่นยำขึ้น และครอบคลุมหลายระดับของผิว” มากกว่าเดิม ทั้งหมดในเครื่องเดียว

คำว่า “7D” ไม่ได้หมายถึงมิติทางกายภาพ แต่หมายถึง จำนวนหัว (cartridge) และระดับความลึก ที่สามารถเลือกใช้ได้ถึง 7 ระดับ เช่น 1.5, 2.0, 3.0, 4.5, 6.0, 9.0 และ 13.0 mm (แต่ละคลินิกอาจมีความแตกต่างกันตามรุ่นย่อยและการใช้งาน) หัวยิงแต่ละระดับสามารถออกแบบมาให้เหมาะกับแต่ละตำแหน่งบนใบหน้าและลำตัว เช่น ใต้ตา, เหนียง, กรอบหน้า หรือหน้าท้อง

จุดเด่นสำคัญของ ULTRAMAX HIFU 7D คือ ความเร็ว ความแม่นยำ และขนาดหัวที่เล็กลง ทำให้สามารถเข้าถึงบริเวณเล็ก ๆ หรือโค้งเว้าได้ดีกว่ารุ่นก่อน เช่น บริเวณใต้ตา มุมปาก หรือกรอบหน้าด้านข้างที่มีพื้นที่แคบ

เทคโนโลยีนี้ยังออกแบบให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายขึ้นขณะทำ โดยลดแรงสั่นสะเทือนและความร้อนกระจายไปยังผิวหนังชั้นบน ซึ่งช่วยให้หลายคนรู้สึกว่าเจ็บน้อยลงเมื่อเทียบกับ HIFU รุ่นก่อน

ULTRAMAX HIFU 7D ได้รับความนิยมมากขึ้นในคลินิกความงามปี 2024–2025 เพราะสามารถให้ผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น และมีความอเนกประสงค์สูงกว่า เหมาะสำหรับทั้งการยกกระชับเฉพาะจุด และการปรับรูปหน้าโดยรวม

เปรียบเทียบ ULTRAMAX HIFU 7D vs Ultraformer III, MPT, 3D & 4D ต่างกันยังไง?

รายการเปรียบเทียบHIFU 3DHIFU 4DUltraformer IIIUltraformer MPTULTRAMAX HIFU 7D
จำนวนหัวยิง / ความลึก3 หัว (พื้นฐาน)4 หัว3 หัว (1.5–4.5 mm)เพิ่มเทคโนโลยี MPTสูงสุด 7 หัว (1.5–13 mm)
หัวยิงหัวใหญ่หัวใหญ่หัวกลางหัวละเอียด ปรับพลังงานได้หัวเล็ก ยิงเฉพาะจุด
ความเร็วในการยิงปานกลางปานกลาง–เร็วเร็วพอสมควรเร็ว + นุ่มนวลเร็วมาก + เสียงเบา
ความรู้สึกขณะทำอุ่น–ร้อนเล็กน้อยอุ่น–ร้อนจี๊ดบางจุดเจ็บน้อยลงกว่ารุ่นก่อนเจ็บน้อยที่สุด รู้สึกเบาสบาย
พื้นที่ที่ใช้ได้ดีใบหน้าโดยรวมใบหน้า + คอกรอบหน้า + เหนียงจุดเล็ก, ใต้ตา, ร่องแก้มจุดเล็ก + กรอบหน้า + คอ
ระยะเวลาเห็นผล1–2 เดือน1–2 เดือน2–4 สัปดาห์บางจุดไวขึ้นบางจุดเห็นใน 2 สัปดาห์
อยู่ได้นาน4–6 เดือนประมาณ 6 เดือน6–12 เดือน6–12 เดือน6–12 เดือน
เหมาะกับใครงบน้อย / มือใหม่งบกลางต้องการผลชัดเจนเคยทำมาแล้ว + ยิงซ้ำแม่นยำต้องการละเอียดทุกจุด
ราคาโดยประมาณ (เต็มหน้า)ต่ำสุดกลางกลาง–สูงสูงกลาง

สรุปจุดเด่นของแต่ละรุ่น

HIFU 3D / 4D

  • เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำ HIFU หรือมีงบประมาณจำกัด
  • ใช้ได้กับใบหน้าโดยรวม แต่ไม่ครอบคลุมจุดเล็ก เช่น ใต้ตาหรือแนวกรอบหน้าแคบ

Ultraformer III

  • รุ่นที่แพทย์ใช้กันอย่างแพร่หลาย
  • ยิงได้แม่นยำ เหมาะกับกรอบหน้า เหนียง และการปรับรูปหน้าเบื้องต้น

Ultraformer MPT

  • อัปเกรดจากรุ่น III เพิ่มการปล่อยพลังงานแบบ Pulse ช่วยลดความเจ็บ
  • เหมาะกับผู้ที่เคยทำ HIFU มาแล้ว และต้องการความแม่นยำในการยิงซ้ำ

ULTRAMAX HIFU 7D

  • หัวยิงเล็ก ความแม่นยำสูง ยิงได้ลึกถึง 7 ระดับ
  • เหมาะกับจุดที่เข้าถึงยาก เช่น ใต้ตา มุมปาก และผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนเฉพาะจุด
  • เสียงเบา เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น และให้ผลลัพธ์เร็วบางจุด

ยิง 7 ระดับคืออะไร? ลึกแค่ไหน และช่วยอะไรบ้าง?

ULTRAMAX HIFU 7D ถูกออกแบบให้สามารถยิงพลังงานได้ถึง 7 ระดับความลึก ซึ่งครอบคลุมทุกชั้นผิว ตั้งแต่ผิวชั้นตื้นจนถึงชั้นลึกอย่าง SMAS ทำให้สามารถยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าได้อย่างแม่นยำ และเหมาะสมกับแต่ละปัญหาผิวในแต่ละจุด

ความลึกทั้ง 7 ระดับของ ULTRAMAX HIFU 7D

  1. 1.5 mm – ใช้สำหรับผิวชั้นตื้น เช่น ใต้ตา หรือร่องเล็ก ๆ รอบปาก
  2. 2.0 mm – ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในผิวชั้นตื้นแบบละเอียด
  3. 3.0 mm – เหมาะกับชั้นไขมันใต้ผิว ช่วยปรับให้ผิวดูเรียบและแน่นขึ้น
  4. 4.5 mm – ยิงถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นพังผืดรองรับกล้ามเนื้อที่ใช้ในศัลยกรรมดึงหน้า
  5. 6.0 mm – เหมาะกับบริเวณที่มีชั้นไขมันมาก เช่น กราม หรือเหนียง
  6. 9.0 mm – ใช้ในจุดที่ต้องการลดไขมันเฉพาะส่วน เช่น คอหรือกรอบหน้า
  7. 13.0 mm – สำหรับบริเวณลำตัว เช่น หน้าท้อง หรือท้องแขน (ขึ้นกับรุ่นหัวที่ติดตั้ง)

ข้อดีของการยิง 7 ระดับ

  • ปรับแต่งได้ละเอียดกว่า HIFU รุ่นก่อน: สามารถเลือกความลึกให้เหมาะกับปัญหาในแต่ละตำแหน่งของใบหน้า
  • กระตุ้นคอลลาเจนในหลายชั้นผิว: ส่งผลให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ยกกระชับพร้อมสลายไขมัน: โดยเฉพาะชั้นลึกที่มีไขมันส่วนเกิน เช่น เหนียง
  • ลดโอกาสยิงพลังงานเกินชั้นที่ต้องการ: เพราะสามารถเลือกหัวเล็กเฉพาะจุด

ULTRAMAX HIFU 7D ใช้ได้กับส่วนไหนบ้างของใบหน้า/ร่างกาย?

ด้วยเทคโนโลยีหัวยิงที่มีขนาดเล็กลงและระดับความลึกที่หลากหลายถึง 7 ระดับ ULTRAMAX HIFU 7D สามารถปรับใช้กับหลายตำแหน่งของใบหน้าและร่างกายได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะบริเวณที่มีโครงสร้างซับซ้อนหรือมีพื้นที่จำกัดที่เทคโนโลยีรุ่นก่อนเข้าไม่ถึง

จุดที่สามารถใช้ ULTRAMAX HIFU 7D ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใบหน้า - ลำคอ

  • ใต้ตา: ช่วยยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อยและรอยคล้ำใต้ตา
  • แก้มส่วนล่าง / แนวกรอบหน้า: กระชับผิว ปรับรูปหน้าให้ดูชัดเจน
  • แนวขากรรไกร (jawline): ยกกระชับให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น
  • เหนียง / คางสองชั้น: ลดไขมันสะสม พร้อมยกกระชับผิว
  • หน้าผาก / หางตา / ร่องแก้ม: ลดเลือนริ้วรอยเล็กและกระตุ้นคอลลาเจนเฉพาะจุด
  • มุมปาก: ปรับผิวให้ดูเรียบตึง ลดรอยลึกที่ทำให้ดูเหนื่อยหรือเศร้า
  • ใต้คางถึงต้นคอ: กระชับผิวหย่อน ลดริ้วรอยแนวคอ (neck lines)

ร่างกาย (ขึ้นอยู่กับรุ่นหัวและการประเมินของแพทย์)

  • ท้องแขน (ต้นแขน): ลดไขมันและยกกระชับผิวหย่อน
  • หน้าท้อง (โดยเฉพาะหลังคลอด/ลดน้ำหนัก): ช่วยให้ผิวแน่นขึ้นในบางจุด
  • ต้นขา / เข่า / สะโพกด้านข้าง: ใช้ในบริเวณที่ผิวบางและมีไขมันสะสมเฉพาะจุด

ULTRAMAX HIFU 7D เหมาะกับใครบ้าง?

แม้ ULTRAMAX HIFU 7D จะเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาให้ยิงพลังงานได้ลึกและแม่นยำมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะจำเป็นต้องทำหรือเหมาะกับเทคโนโลยีนี้โดยตรง การประเมินว่าควรทำหรือไม่ ควรขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาที่พบ และเป้าหมายของแต่ละบุคคลเป็นหลัก

ลุ่มคนที่เหมาะกับการทำ ULTRAMAX HIFU 7D

  • ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น กรอบหน้าไม่ชัด, มุมปากตก, ผิวใต้คางเริ่มคล้อย
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับโดยไม่ผ่าตัด โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นหรือมีข้อจำกัดเรื่องการใช้เข็ม/ศัลยกรรม
  • ผู้ที่เคยทำ HIFU รุ่นก่อน และต้องการผลลัพธ์ที่ละเอียดขึ้น เช่น เคยทำ Ultraformer III หรือ MPT แล้วอยากได้ผลที่ครอบคลุมจุดเล็กขึ้น
  • ผู้ที่มีไขมันสะสมบางส่วนบริเวณเหนียง คาง หรือกรอบหน้า และต้องการยกกระชับ + ลดไขมันไปพร้อมกัน
  • ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนในผิวเฉพาะจุด เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม หางตา ซึ่งเทคโนโลยี 7D เข้าถึงได้ดี

กลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อน

  • ผู้ที่มีโรคเรื้อรังที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวานขั้นรุนแรง, ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ผู้ที่มีโลหะฝังในใบหน้า เช่น รากฟันเทียมบางประเภท, เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า
  • ผู้ที่มีแผลเปิด ผิวติดเชื้อ หรือเพิ่งทำเลเซอร์รุนแรงบริเวณใบหน้า
  • ผู้ที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์/โบท็อกซ์มา ควรรอระยะเวลาก่อนทำ

หมายเหตุ

  • ไม่จำเป็นต้องมีอายุเยอะถึงจะทำ HIFU ได้หากเริ่มมีสัญญาณของความหย่อนคล้อย และต้องการ “ป้องกันล่วงหน้า” ก็สามารถทำได้เช่นกัน
  • ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนเมื่อมีปัญหาผิวที่เหมาะกับการยกกระชับ เช่น ผิวหย่อนคล้อย ไม่ใช่ปัญหาผิวแห้งหรือผิวหมอง

ขั้นตอนการทำ ULTRAMAX HIFU 7D และต้องเตรียมตัวยังไง?

การทำ ULTRAMAX HIFU 7D เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ใช้เข็ม และไม่ต้องพักฟื้น แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การเตรียมตัวล่วงหน้า และเข้าใจขั้นตอนการทำอย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับผู้รับบริการ

การเตรียมตัวก่อนทำ

  • งดการใช้กรดผลไม้ / เรตินอล / AHA / BHA บนใบหน้า 1–2 วันก่อนทำ
  • งดเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ร้อนอื่น ๆ อย่างน้อย 5–7 วัน
  • หากมีประวัติฉีดฟิลเลอร์ในจุดที่ต้องการทำ HIFU ควรแจ้งแพทย์ก่อน
  • ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ และไม่ทำขณะเป็นหวัดหรือร่างกายอ่อนเพลีย

ขั้นตอนก่อนทำ

  1. ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินโครงสร้างผิว จุดที่มีปัญหา และเลือกหัวที่เหมาะสมกับแต่ละบริเวณ
  2. ล้างหน้า / ทำความสะอาดผิว เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดใบหน้าให้หมดจดก่อนเริ่มหัตถการ
  3. ทายาชา (บางกรณี) แม้ ULTRAMAX HIFU 7D จะเจ็บน้อยลงมาก แต่หากผู้รับบริการกังวลเรื่องความรู้สึก อาจมีการทายาชาล่วงหน้า

ระหว่างทำ

  • แพทย์จะใช้เครื่อง ULTRAMAX ยิงพลังงานผ่านหัวขนาดเล็กไปยังชั้นผิวในระดับต่าง ๆ ตามตำแหน่งที่ประเมินไว้
  • ระยะเวลาการทำประมาณ 30–60 นาที ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการยกกระชับ
  • ผู้รับบริการจะรู้สึกอุ่นหรือจี๊ดเล็กน้อยในบางจุด แต่โดยรวมสบายกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน
  • ไม่มีแผล ไม่ใช้เข็ม ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ

หลังทำเสร็จทันที

  • อาจมีผิวแดงเล็กน้อย ซึ่งมักหายภายใน 1–3 ชั่วโมง
  • สามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
  • แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ และหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น ซาวน่า หรือเลเซอร์ร้อนในช่วง 1 สัปดาห์แรก

ทำ ULTRAMAX HIFU 7D ใช้เวลากี่นาที? อยู่ได้นานแค่ไหน?

หนึ่งในจุดเด่นของเทคโนโลยี INDIBA คือความสามารถในการปรับใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมเกือบทุกบริเวณของร่างกาย ตั้งแต่ผิวหน้าไปจนถึงอวัยวะภายในบางส่วน โดยใช้หัวอิเล็กโทรดที่ออกแบบเฉพาะสำหรับแต่ละตำแหน่ง เพื่อให้พลังงานลงลึกอย่างปลอดภัยและตรงจุด

ใช้เวลากี่นาทีในการทำ?

  • ระยะเวลาขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ยิง โดยเฉลี่ย 30–60 นาที
    • ทั่วหน้า: ประมาณ 45–60 นาที
    • เฉพาะจุด (ใต้ตา / เหนียง): ประมาณ 15–30 นาที
    • หากทำหลายจุดรวมกัน (หน้า + คอ + ตัว) อาจใช้เวลารวม 90 นาที

อยู่ได้นานแค่ไหน?

  • โดยทั่วไป ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6–12 เดือน
  • ขึ้นอยู่กับอายุ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการดูแลผิวหลังทำ
  • ถ้าดูแลดี ผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานกว่าที่คาด

เห็นผลเมื่อไหร่?

  • บางจุดเห็นผลได้ตั้งแต่ 2–4 สัปดาห์แรก
  • เห็นผลชัดที่สุดที่ประมาณ เดือนที่ 2–3

ควรทำซ้ำเมื่อไหร่?

  • โดยทั่วไป แนะนำทำซ้ำทุก 6–12 เดือน ขึ้นกับอายุและลักษณะผิว
  • แต่หากคุณดูแลผิวดี ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 12 เดือนหรือมากกว่านั้นโดยไม่ต้องทำซ้ำบ่อย

ถ้าไม่ดูแลหลังทำ จะคล้อยเร็วไหม?

คำตอบคือ “มีโอกาส” ที่ผิวจะกลับมาหย่อนเร็วกว่าที่ควรเป็น โดยเฉพาะในกรณีที่:

  • พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ดื่มน้ำน้อย หรือขาดความชุ่มชื้น
  • สัมผัสแสงแดดโดยไม่ป้องกัน
  • สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
  • มีความเครียดสะสม / ฮอร์โมนไม่สมดุล
  • ขัดผิวแรง ใช้ครีมที่ทำลายผิวชั้นบน

ผลที่ตามมาอาจไม่ได้กลับมาหย่อนเท่าก่อนทำทันที แต่จะทำให้ผลของการกระตุ้นคอลลาเจนเสื่อมลงเร็วกว่าโดยไม่จำเป็น

พฤติกรรมแบบไหนช่วยให้ผลอยู่ได้นานที่สุด?

  • ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5–2 ลิตร เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและคอลลาเจนสร้างได้ต่อเนื่อง
  • นอนหลับให้เพียงพอ และพักผ่อนช่วง 22.00–02.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง
  • ทาครีมกันแดดทุกวัน แม้อยู่ในบ้าน เพราะรังสี UVA/UVB ทำลายคอลลาเจน
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับผิวตนเอง โดยเฉพาะพวกที่กระตุ้นคอลลาเจนหรือมีส่วนผสมของเปปไทด์
  • หลีกเลี่ยงเลเซอร์ร้อนหรือทรีตเมนต์ที่ทำร้ายชั้นผิวบ่อยเกินไป

ULTRAMAX HIFU 7D เจ็บไหม? ต้องพักฟื้นหรือไม่?

แม้ HIFU จะเป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่หลายคนก็ยังกังวลเรื่อง “ความเจ็บ” และ “ต้องพักฟื้นไหม?” ULTRAMAX HIFU 7D ได้รับการออกแบบเพื่อลดปัญหาเหล่านี้โดยเฉพาะ ทั้งในด้านความรู้สึกระหว่างทำ และการฟื้นตัวหลังทำ

เจ็บไหม?

  • ULTRAMAX HIFU 7D ใช้ หัวยิงขนาดเล็กและแม่นยำสูง ช่วยลดแรงกระแทกและความรู้สึกเจ็บจากการยิง
  • พลังงานถูกปรับให้เหมาะกับแต่ละบริเวณและแต่ละชั้นผิว จึงให้ความรู้สึก “อุ่นลึก” หรือ “จี๊ดบางจุด” มากกว่าความเจ็บ
  • โดยรวมเจ็บ น้อยกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน และหลายคนรู้สึกว่าสบายกว่าที่คิด

ถ้าผู้รับบริการมีความไวต่อความรู้สึก แพทย์อาจพิจารณาทายาชาก่อนเริ่ม

ต้องพักฟื้นไหม?

  • ULTRAMAX HIFU 7D ใช้ หัวยิงขนาดเล็กและแม่นยำสูง ช่วยลดแรงกระแทกและความรู้สึกเจ็บจากการยิง
  • พลังงานถูกปรับให้เหมาะกับแต่ละบริเวณและแต่ละชั้นผิว จึงให้ความรู้สึก “อุ่นลึก” หรือ “จี๊ดบางจุด” มากกว่าความเจ็บ
  • โดยรวมเจ็บ น้อยกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน และหลายคนรู้สึกว่าสบายกว่าที่คิด

ถ้าผู้รับบริการมีความไวต่อความรู้สึก แพทย์อาจพิจารณาทายาชาก่อนเริ่ม

ดูแลตัวเองอย่างไรหลังทำ?

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น อบไอน้ำ ซาวน่า เลเซอร์ร้อน เป็นเวลา 5–7 วัน
  • ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการขัดหน้าแรง ๆ หรือทำหัตถการอื่น ๆ ซ้ำจุดเดิมในช่วง 1 สัปดาห์แรก

ULTRAMAX HIFU 7D มีกี่หัว? ต่างกันยังไง?

หัว (cartridge) ของ ULTRAMAX HIFU 7D เป็นหัวยิงพลังงานที่สามารถเลือกความลึกได้ถึง 7 ระดับ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเทคโนโลยีนี้ ทำให้แพทย์สามารถเลือกยิงเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่มีพื้นที่เล็กหรือเข้าถึงยาก เช่น ใต้ตา มุมปาก หรือแนวขากรรไกร

หัวยิง (Cartridge)ความลึกที่ยิงได้เหมาะกับบริเวณใด
1.5 mmชั้นผิวตื้นใต้ตา, ร่องปาก
2.0 mmผิวชั้นกลางตื้นหางตา, หน้าผาก
3.0 mmชั้นไขมันใต้ผิวแก้ม, กรอบหน้า
4.5 mmชั้น SMASกรอบหน้า, เหนียง
6.0 mmไขมันลึกเฉพาะจุดเหนียง, คอ
9.0 mmชั้นไขมันลึกมากท้องแขน, หน้าท้อง
13.0 mmลำตัว/ไขมันหนาหน้าท้อง, สะโพก
  • ขนาดหัวเล็กพิเศษ: เหมาะสำหรับยิงในจุดเล็กหรือพื้นที่โค้งเว้า เช่น ขอบปาก ใต้ตา
  • ความลึกที่เลือกได้เฉพาะจุด: ช่วยให้ยิงได้ตรงชั้นผิวที่มีปัญหาจริง ไม่กระทบเนื้อเยื่อข้างเคียง
  • หัวบางรุ่นมีระบบตรวจจับระดับผิว: ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการยิง และลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง

ULTRAMAX HIFU 7D กับ Ultraformer ต่างกันยังไง? ควรเลือกอันไหนดี?

Ultraformer ถือเป็นเครื่อง HIFU ที่ได้รับความนิยมสูงในคลินิกความงามไทย โดยเฉพาะ Ultraformer III และ Ultraformer MPT แต่ในปัจจุบัน ULTRAMAX HIFU 7D ได้เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้นในจุดเล็ก ๆ

การเปรียบเทียบอย่างชัดเจน จะช่วยให้คุณเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับปัญหาผิวและงบประมาณของตนเองมากที่สุด

ตารางเปรียบเทียบแบบสรุป

รายการเปรียบเทียบUltraformer IIIUltraformer MPTULTRAMAX HIFU 7D
หัวยิง3 หัว (1.5, 3.0, 4.5 mm)+ เพิ่มหัว Pulse แม่นยำสูงสุด 7 หัว (1.5–13 mm)
ความแม่นยำสูงสูง + Pulseสูง + เฉพาะจุด
เสียงขณะทำค่อนข้างดังนุ่มลงเล็กน้อยเงียบที่สุด เสียงเบา
ความรู้สึกขณะทำจี๊ด เจ็บบางจุดนุ่มนวลขึ้นเจ็บน้อย สบายกว่า
เหมาะกับบริเวณใดกรอบหน้า เหนียงจุดเล็ก ใต้ตา ร่องแก้มจุดเล็กมาก + คอ + ลำตัว
ระยะเวลาทำ45–60 นาที30–60 นาที30–60 นาที
ระยะเวลาเห็นผล2–4 สัปดาห์บางจุดเร็วขึ้นบางจุดเห็นผลใน 2 สัปดาห์
ระยะเวลาผลลัพธ์คงอยู่6–12 เดือน6–12 เดือน6–12 เดือน
ราคาเฉลี่ย (ใบหน้า)กลาง–สูงสูงกลาง

ควรเลือกอะไรดี?

  • เลือก Ultraformer III ถ้าคุณต้องการเครื่องที่ได้รับการยอมรับมานาน เหมาะกับปัญหาทั่วไป เช่น กรอบหน้า เหนียง และงบกลางถึงสูง
  • เลือก Ultraformer MPT ถ้าคุณเคยทำ HIFU มาแล้ว และต้องการความแม่นยำสูงขึ้นโดยไม่เพิ่มความรู้สึกเจ็บมากนัก
  • เลือก ULTRAMAX HIFU 7D ถ้าคุณต้องการความละเอียดสูงสุด ยิงได้หลายระดับลึก รวมถึงจุดเล็ก-แคบ เช่น ใต้ตา มุมปาก และต้องการประสบการณ์ที่รู้สึกสบายกว่า

ULTRAMAX HIFU 7D กับ Thermage ต่างกันยังไง?

ULTRAMAX HIFU 7D และ Thermage เป็น 2 เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แม้จะให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกันในภาพรวม แต่หลักการทำงาน เครื่องมือที่ใช้ และความรู้สึกระหว่างทำมีความแตกต่างอย่างชัดเจน

การเข้าใจจุดเด่น-จุดต่างของแต่ละเทคโนโลยี จะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าตัวเลือกไหน “เหมาะกับปัญหาผิวของคุณมากที่สุด”

รายการเปรียบเทียบULTRAMAX HIFU 7DThermage FLX
พลังงานที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์โฟกัส (HIFU)คลื่นวิทยุ (Radiofrequency, RF)
ชั้นผิวที่ทำงานชั้น SMAS + ไขมัน + ผิวตื้น (1.5–13 mm)ชั้นหนังแท้และคอลลาเจนใต้ผิว (ไม่ถึง SMAS)
หัวยิงหัวเล็ก 7 ระดับ ยิงเฉพาะจุดหัวใหญ่ ยิงกว้างในชั้นเดียว
ความแม่นยำในการยิงสูงมาก (เฉพาะจุด + ลึกได้หลายระดับ)กว้างแต่ไม่เฉพาะจุดเท่า HIFU
ความรู้สึกขณะทำอุ่น–จี๊ดเล็กน้อย เจ็บน้อยร้อนลึก อาจรู้สึกสะดุ้งในบางจุด
เสียงระหว่างทำเงียบมาก เสียงเบาเสียงปกติ ไม่มีคลื่นจี๊ด
ระยะเวลาการทำ30–60 นาที60–90 นาที
เห็นผลชัดเจนเมื่อไหร่เริ่มเห็นใน 2–4 สัปดาห์ เต็มที่เดือนที่ 2–3บางคนเห็นผลทันที ชัดสุดใน 2–6 เดือน
อยู่ได้นานแค่ไหน6–12 เดือน9–18 เดือน
ราคาโดยเฉลี่ย (ทั่วหน้า)กลางสูงมาก (ราคาต่อครั้งมากกว่า HIFU)
เหมาะกับปัญหาแบบไหนผิวหย่อน + ไขมันเฉพาะจุดผิวหย่อนคล้อยแบบทั่วใบหน้า
เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลแม่นยำ เฉพาะจุด เจ็บน้อยต้องการยกผิวชั้นตื้นทั่วใบหน้า ผลลัพธ์นาน

ULTRAMAX HIFU 7D ต่างจาก HIFU ทั่วไปยังไง?

แม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่ ULTRAMAX HIFU 7D และ HIFU ทั่วไปในท้องตลาดนั้น มีความแตกต่างกันมากทั้งในด้านคุณภาพ ความรู้สึกขณะทำ และผลลัพธ์ที่ได้

การเข้าใจข้อแตกต่างเหล่านี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า “เครื่อง HIFU ที่เลือกใช้” มีความเหมาะสมกับสภาพผิวและงบประมาณของคุณหรือไม่

รายการเปรียบเทียบHIFU ทั่วไป (Generic HIFU)ULTRAMAX HIFU 7D
เทคโนโลยีหลักHIFU มาตรฐานHIFU ความแม่นยำสูง (7D)
ความแม่นยำของการยิงปานกลาง – ยากต่อการควบคุมความลึกแม่นยำสูง ยิงได้เฉพาะจุดแต่ละระดับผิว
จำนวนหัวที่เลือกได้โดยทั่วไป 3 ระดับ (1.5, 3.0, 4.5 mm)สูงสุด 7 ระดับ (1.5–13.0 mm)
ความรู้สึกระหว่างทำจี๊ด ช็อตแรง เสียงดังอุ่นสบาย เจ็บน้อยกว่า เสียงเบา
ผลลัพธ์หลังทำเห็นผลบ้าง ขึ้นอยู่กับเครื่องและฝีมือเห็นผลชัดเจนใน 2–4 สัปดาห์ และพัฒนาเรื่อย ๆ
ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้3–6 เดือน (ขึ้นกับคุณภาพเครื่อง)6–12 เดือน (หากดูแลดี)
ความปลอดภัยขึ้นกับแหล่งที่มา บางรุ่นไม่ได้รับรองมีมาตรฐานคลินิก-แพทย์ พร้อมหัวแท้ผ่าน อย.
เหมาะกับผู้ที่งบจำกัด, ต้องการลองเบื้องต้นต้องการผลลัพธ์แม่นยำ + เจ็บน้อย + คุ้มค่า

ULTRAMAX HIFU 7D ราคาเท่าไหร่? ที่จูอาคลินิก (โปรโมชัน)

แพ็กเกจ / จุดทำจำนวนช็อตราคาปกติโปรโมชัน
ทั่วหน้าไม่จำกัด6,990 ฿4,990 ฿
ทั่วหน้า + เหนียงไม่จำกัด8,990 ฿6,990 ฿

บทสรุป ULTRAMAX HIFU 7D ทางเลือกใหม่ของการยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด

ULTRAMAX HIFU 7D เป็นเทคโนโลยียกกระชับรุ่นใหม่ที่ผสานความแม่นยำ ความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติในขั้นตอนเดียว ด้วยการเลือกใช้หัวยิงได้ถึง 7 ระดับความลึก ทำให้สามารถปรับพลังงานให้เหมาะกับแต่ละจุดของใบหน้าและลำตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังมีข้อดีคือไม่ต้องพักฟื้น ไม่ใช้เข็ม และให้ความรู้สึกเจ็บน้อยกว่ารุ่นก่อน จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวโดยไม่กระทบชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ตาม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรรับบริการในคลินิกที่ใช้เครื่องแท้ หัวแท้ และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การประเมินอย่างละเอียดก่อนทำและการดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยืดอายุผลลัพธ์ให้นานขึ้น

ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาเฉพาะบุคคลของคุณ

INDIBA เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย เหมาะทั้งสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันปัญหาผิวในอนาคต และผู้ที่มีปัญหาแล้วต้องการดูแลอย่างอ่อนโยน ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น โดยสามารถปรับโปรแกรมให้เหมาะกับอายุ สุขภาพ และไลฟ์สไตล์แต่ละบุคคลได้อย่างยืดหยุ่น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ULTRAMAX HIFU 7D

ULTRAMAX HIFU 7D เหมาะกับอายุเท่าไหร่?

เหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยตั้งแต่อายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะช่วง 30–50 ปีที่ผิวเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่น

ทำ HIFU 7D แล้วหน้าจะยกทันทีเลยไหม?

บางจุดจะเริ่มรู้สึกกระชับขึ้นทันทีหลังทำ แต่ผลลัพธ์เต็มที่จะค่อย ๆ เห็นชัดในช่วง 2–3 เดือนหลังทำ เมื่อคอลลาเจนเริ่มสร้างใหม่ตามธรรมชาติ

ต้องพักฟื้นไหมหลังทำ ULTRAMAX HIFU 7D?

ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที อาจมีรอยแดงเล็กน้อยที่หายภายในไม่กี่ชั่วโมง

ทำ HIFU 7D ได้บ่อยแค่ไหน?

โดยทั่วไปแนะนำทำทุก 6–12 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ไว้ หากดูแลดี ผลอาจอยู่ได้นานถึง 1 ปี

ทำ ULTRAMAX HIFU 7D แล้วเจ็บไหม?

เจ็บน้อยกว่ารุ่นเก่าอย่างชัดเจน ความรู้สึกขณะทำจะเป็นแบบอุ่นลึกหรือจี๊ดเล็กน้อยในบางจุด โดยไม่ต้องใช้ยาชาในหลายกรณี

ต่างจาก HIFU ธรรมดายังไง?

ULTRAMAX HIFU 7D มีหัวยิงขนาดเล็กมาก ยิงได้ลึกและเฉพาะจุดมากกว่า HIFU ทั่วไป พร้อมพลังงานแม่นยำกว่า ให้ผลชัดเจน เจ็บน้อยกว่า

สามารถทำร่วมกับ Botox หรือ Filler ได้ไหม?

ได้ แต่ควรเว้นระยะเวลาให้เหมาะสม และแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง แพทย์จะวางแผนหัตถการตามลำดับที่ปลอดภัยที่สุด